อิสราเอล ( Israel ) เป็นอีกประเทศหนึ่งที่โลกเมรัยอมตะต้องบันทึกไว้ว่าเป็นแผ่นดินหนึ่งที่พระเจ้าประทานมาให้สำหรับทำไวน์เพราะสามารถผลิตไวน์คุณภาพดีไม่แพ้ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ชิลี นิวซีแลนด์ และเซาธ์แอฟริกา บางยี่ห้อ บางรุ่นสามารถพิชิตไวน์โลกเก่าได้
ที่ผ่านมาถูกเขม่าการเมืองและควันปืนปกคลุมจนหมด แม้ปัจจุบันท้องฟ้าจะโปร่งบางแต่ก็ยังไม่สดใสอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้ชาวโลกรู้จักไวน์อิสราเอลน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองไทย
หนึ่งในผู้ผลิตไวน์คุณภาพและสร้างชื่อเสียงให้กับอิสราเอล และนำเข้ามาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว คือ บาร์กาน ( Barkan ) ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1899 โดย โชมอ ฟรีดแมน ( Shlomo Friedman ) ภายใต้ชื่อฟรีดแมนไวเนอรี ( Friedman Winery ) เพื่อผลิตไวน์หวาน Kiddush และบรั่นดี สำหรับชุมชนชาวยิวที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่ปาเลสไตน์ ( Palestine )
หลังจากนั้น Bezalel ลูกชายของ Shlomo เข้ามาสืบสานธุรกิจแทนพ่อ และย้ายฐานการผลิตไปที่ Kiryat Matalon ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมของ Petah-Tikva ปี1964 ไร่องุ่นถูกขายให้กับบริษัท Tnuva ผู้ค้าองุ่น ส่วนใหญ่เป็นองุ่น Alicante และ Carignane และเปลี่ยนชื่อเป็น Tnuva-Friedman
ปี 1971 บริษัท Tnuva ขายกิจการให้กับบริษัท Stock ผู้ค้าเหล้ารายใหญ่ และ ไร่องุ่นที่ Petah-Tikva ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น อามาร์เตฟ ( Hamartef ) ซึ่งแปลว่าเซลลาร์ ( Cellar ) และเริ่มผลิตไวน์จากองุ่นสายพันธุ์คลาสสิกหลายสายพันธุ์ รวมทั้ง เช่น กาแบร์เนต์ โซวีญยอง ( Cabernet Sauvignon ) และ โซวีญยอง บลัง ( Sauvignon Blanc )
ปี 1988 บริษัท Stock ก่อตั้งไวเนอรีใหม่ใกล้กับ Ariel ในเขตอุตสาหกรรมบาร์กาน ( Barkan Wine Cellars ) ปี 2001 ซื้อซีกัส ไวเนอรี ( Segal Winery ) ทำให้ Barkan กลายเป็นไวเนอรีที่ใหญ่เป็นเบอร์ 2 ของอิสราเอล
ปี 1990 มีการขยายอาณาจักรไปที่คิบบุตซ์ อุลดา ( Kibbutz Hulda ) ทางตะวันออกของกรุงเทลอาวีฟ ( Tel Aviv ) เมืองหลวง ทำให้ Hulda vineyard เป็น Single vineyard ที่ใหญ่ที่สุดในอิสราเอลและเป็นที่ทำการของ Barkan ขณะที่ไวน์ยี่ห้อ Segal ก็ยังผลิตที่นี่ตั้งแต่ปี 2001 แต่แยกทำตลาดเอง เป็นต้น
หลังจากนั้นกิจการของ Barkan ก็ดำเนินมาด้วยความก้าวหน้า ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล และหน่วยงานต่างๆรวมทั้งได้รับรางวัลมากมายจากทั้งในและต่างประเทศ ที่สำคัญก็คือในจำนวน 25 ผู้ผลิตไวน์ที่ส่งออกไปสหรัฐนั้น Barkan อยู่หัวแถวตามด้วย Binyamina , Carmel , Dalton , Domaine du Castel , Efrat , Galil Mountain , Golan Heights Winery , Recanati และ Tishbi
Barkan เป็นโรงไวน์ที่ได้รับการออกแบบด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยแห่งศตวรรษที่ 21 นอกจากปลูกองุ่นเองแล้ว ยังซื้อองุ่นจากเกษตรกรจากพื้นที่เยี่ยมๆ เช่น Golan Heights , Upper Galilee , Lower Galilee , Mount Taborregion และ Mitzpe Ramon เป็นต้น ขณะเดียวกันยังนำเทคโนโลยีการผลิตไวน์ที่ทันสมัยมาใช้เพื่อให้ได้ไวน์ที่มีคุณภาพ มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ด้วยการผสานอัตลักษณ์ของไวน์โลกเก่ากับไวน์โลกใหม่จนลงตัว ผลผลิตในปัจจุบันจึงอยู่ที่ 5-9 ล้านขวดต่อปี
ปัจจุบันผลิตไวน์หลายรุ่น เช่น Village , La Tavola , Barkan Classic , Reserve Signature , Superior และ Altitude นอกจากนั้นยังจับมือเป็นพันธมิตรเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตไวน์จากทั่วโลก เช่น Royal Wine Company ( USA ) , Kedem Europe Ltd. ( United Kingdom ) , Ron Riess Import Export ( Germany ) และ S.A.R.L.- Zaoui ( France )
ผมได้ชิมไวน์ Barkan ครั้งแรกเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว จากการนำเข้าของบริษัท U & V Intertrade และยังเหนียวแน่นมาจนถึงปัจจุบันไม่เคยเปลี่ยนผู้นำเข้าเลย แถมยังมีหลากหลายรุ่นกว่าแต่ก่อน เช่น Special Reserve , Reserve , Altitude และคลาสสิกเป็นต้น ผลิตจากองุ่นสายพันธุ์ดังๆของโลก เช่น กาแบร์เนต์ โซวีญยอง ( Cabernet Sauvignon ) ชีราซ ( Shiraz ) ปิโนทาจ ( Pinotage ) ชาร์โดห์เนย์ ( Chardonnay ) โซวีญยอง บลัง ( Sauvignon Blanc ) และ รีสสิ่ง ( Riesling ) เป็นต้น
นั่นคือส่วนหนึ่งของไวน์ บาร์กาน ( Barkan ) หนึ่งในตำนานไวน์อิสราเอล สำหรับศึกษาเป็นวิชาการ ส่วนเทสติ้ง โน้ต ของแต่ละรุ่นแต่ละตัว ขออนุญาตนำเสนอในโอกาสหน้า